03001

คำถามที่ 1สาย HDMI ราคาถูกๆ กับ ราคาแพงๆ มันต่างกันอย่างไร

คำตอบ แน่นอนครับว่ามันต้องมีความแตกต่าง เช่น ความสวยงามของสาย ความสวยงามของแพ็กเกจ

 

คำถามที่ 2แล้วคุณภาพของภาพและเสียงที่ได้จากสายราคาถูกกับราคาแพงต่างกันหรือเปล่า

คำตอบ เรื่องคุณภาพของภาพและเสียงไม่มีความแตกต่างกันแน่นอน คำตอบอาจจะค้านกับความรู้สึกของหลายๆคน แต่อย่างที่บอกข้างต้น บทความนี้ไม่ได้เขียนจากความรู้สึก ใช้แต่ทฤษฎีและหลักการเท่านั้น

 

 

คำถามที่ 3 แล้วทำไมถึงมั่นใจว่าคุณภาพมันไม่ต่างกัน

คำตอบ เพราะการส่งข้อมูลผ่านสาย HDMI เป็นการส่งข้อมูลแบบดิจิตอล ซึ่งต่างจากอดีตที่ใช้การส่งสัญญาณแบบอนาล็อก ผมจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพแบบง่ายๆก็แล้วกัน

โจทย์คือผมต้องการให้คน 5 คน คือ นาย A B C D E ส่งข้อความคำว่า “กขคงจฉชซ” ให้นาย Z โดยใช้วิธี 2 วิธี คือ ให้เขียนใส่กระดาษ กับ ใช้โค้ดดิจิตอล (0 กับ 1)

วิธีแรก ให้เขียนใส่กระดาษ ปรากฏว่าทั้ง 5 คนลายมือไม่เหมือนกัน บางคนเขียน ช กับ ซ คล้ายกัน บางคนเขียน ก กับ ค คล้ายกัน บางคน ข กับ ช คล้ายกัน ผลลัพธ์ก็คือ นาย Z แปลข้อมูลจากคนส่งทั้ง 5 คนไม่เหมือนกัน ทั้งๆที่ข้อมูลต้นทางเป็นข้อมูลเดียวกัน

เปรียบเทียบวิธีแรกก็เหมือนการส่งข้อมูลแบบอนาล็อก นาย A B C D E ก็เหมือนกับสายสัญญาณ ลายมือสวยอ่านง่ายก็หมายถึงคุณภาพของสายสัญญาณดี ส่งข้อมูลได้ไม่ค่อยผิดเพี้ยน ลายมืออ่านยากก็คือคุณภาพของสัญญาณไม่ดี ส่งสัญญาณไม่ชัดเจน นอกจากนั้นถ้าเกิดสัญญาณรบกวนระหว่างทางทำให้สัญญาณผิดเพี้ยน ปลายทางก็จะอ่านข้อมูลผิดเพี้ยนไป

สรุปได้ว่าการส่งสัญญาณแบบอนาล็อก วัสดุที่ใช้ในการทำสายสัญญาณมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของสัญญาณแน่นอน วัสดุยิ่งนำสัญญาณได้ดี ผลลัพธ์ที่ปลายทางก็จะยิ่งดี สายสัญญาณที่ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีก็ช่วยทำให้สัญญาณปลายทางใกล้เคียงต้น ทางมากขึ้น

วิธีที่สอง ผมจะกำหนดให้ตัวอักษร ก ข ค ง จ ฉ ช ซ ถูกแทนที่ด้วยชุดตัวเลข 3 ตัว โดยแทนด้วยเลขฐานสองซึ่งก็คือ 0 และ 1

ก = 000 , ข = 001 , ค = 010 , ง = 011 , จ = 100 , ฉ = 101 , ช = 110 , ซ = 111

 

หมายความว่านาย A B C D E จะต้องเขียนลงบนกระดาษเป็นตัวเลข 0 กับ 1 ต่อเนื่องตามนี้

000001010011100101110111

 

นาย Z ซึ่งรู้ว่าสิ่งที่จะส่งมาจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลขชุด 3 ตัว ส่งต่อมาหลายๆชุด ก็จะจัดการแบ่งข้อมูลที่ได้รับมาเป็นตามนี้

000 001 010 011 100 101 110 111 แล้วก็ทำการแปลงชุดตัวเลขแต่ละตัวกลับมาเป็นตัวอักษร กขคงจฉชซ ต่อไป

บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วถ้านาย A B C D E เขียนเลข 0 กับ 1 คล้ายกันก็มีปัญหาไม่ต่างจากวิธีแรกหรือเปล่า ขอบอกว่าเข้าใจผิดแล้วครับ ความจริงแล้วในการทำงานจริง นาย A B C D E จะส่งข้อมูลเป็นสัญญาณสูงกับต่ำครับ 0 กับ 1 เป็นแค่ตัวแทนเพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น โดยที่ 0 แทนสัญญาณต่ำ 1 แทนสัญญาณสูง เพราะฉะนั้นปัญหาดังกล่าวเลิกคิดได้เลยครับ

จะเห็นได้ว่าวิธีที่สอง ไม่ว่านาย A B C D E จะส่งข้อมูลกี่ครั้ง นาย Z ก็จะสามารถแปลงข้อมูลได้เหมือนต้นทางทุกครั้ง และถึงแม้ว่านาย Z จะต้องส่งต่อให้คนอื่นโดยใช้วิธีเดียวกัน ข้อมูลที่ปลายทางได้รับก็ยังเหมือนเดิมตลอด ในทางกลับกันถ้าใช้วิธีแรก นาย Z ซึ่งได้รับข้อมูลที่ผิดเพี้ยนมาแล้วต้องไปส่งต่อให้คนอื่น ข้อมูลที่ส่งต่อไปก็จะยิ่งเพี้ยนไปมากกว่าเดิม ยิ่งส่งต่อก็ยิ่งเพี้ยนมากขึ้น

ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นสำหรับวิธีที่สองก็คือสัญญาณมาไม่ถึงนาย Z ครับ อาจจะเป็นเพราะสายขาดหรือสัญญาณดร็อปจนนาย Z อ่านค่าไม่ได้

เช่นสัญญาณจากนาย A ส่งมาเป็นแบบนี้ 0_0001010011100101110111 (ตัวขีดล่างหมายถึงไม่มีสัญญาณส่งมานะครับ)

นาย Z ก็จะอ่านได้แบบนี้ 0_0 001 010 011 100 101 110 111

ในกรณีนี้นาย Z จะไม่สามารถแปลงค่าอักษรตัวแรกคือ “ก” ได้ สัญญาณตรงนั้นก็จะขาดหายไปครับ จะไม่มีการแบบว่า “ก” สีเพี้ยนหรือมาครึ่งตัวหรือไม่ชัดหรือมืดกว่า จะมีแค่ว่าแสดงผลหรือไม่แสดงผลเท่านั้นครับ ถ้าแสดงผลได้ข้อมูลก็จะเหมือนต้นทางทุกประการ

 

คำถามที่ 4 ถ้าอย่างนั้นสาย HDMI แพงๆ กับถูกๆมันก็ใช้งานได้ไม่ต่างกันเลยใช่มั้ย

คำตอบ เข้าใจผิดแล้วครับ การเลือกซื้อสาย HDMI ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานครับ ความยาวของสายที่เราต้องการและรูปแบบของไฟล์ที่จะใช้งานเป็นประเด็นหลักที่ ต้องนำมาคิด ความยาวมีผลต่อขนาดสัญญาณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้นทางมีสัญญาณ 100% สัญญาณดังกล่าวจะค่อยๆถูกทอนหายไปตามระยะทางที่มันวิ่งผ่านสายสัญญาณไปจน กระทั่งถึงจุดที่ปลายทางไม่สามารถจับสัญญาณได้เลยหรือสัญญาณที่จับได้ต่ำมาก จนนำมาใช้งานไม่ได้ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการลดลงของสัญญาณก็คือความต้านทานของสายนำสัญญาณครับ ผมขออธิบายด้วยหลักทางฟิสิกส์ง่ายๆ

หลักการข้อแรก ถ้าขนาดสายสัญญาณเท่ากัน วัสดุที่มีความต้านทานต่ำกว่าจะสามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าและส่งข้อมูลได้เร็วกว่า

หลัก การข้อที่สอง ถ้าวัสดุที่ใช้ทำสายสัญญาณเป็นวัสดุชนิดเดียวกัน ขนาดของสายที่ใหญ่กว่าจะมีความต้านทานต่ำกว่า ทำให้สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าและส่งข้อมูลได้เร็วกว่า

สายสัญญาณที่ดีๆ ก็จะต้องทำจากวัสดุที่มีความต้านทานต่ำแล้วก็จะต้องมีขนาดใหญ่ด้วยเหตุผลข้างต้นครับ

ทีนี้เริ่มจะเห็นภาพหรือยังครับว่าคุณภาพของสายสัญญาณ HDMI มีผลต่อสัญญาณ แต่ไม่ได้มีผลในแง่ของคุณภาพของภาพและเสียงที่ปลายทางนะครับ แต่มันจะมีผลในแง่ของสัญญาณว่าจะไปถึงหรือไปไม่ถึงปลายทางครับ ซึ่งมันจะเห็นผลก็ต่อเมื่อต้องส่งสัญญาณไกลๆครับ ถ้าท่านต้องการสายสัญญาณ HDMI ยาวแค่ไม่เกิน 5 เมตร ยังไงสัญญาณก็ส่งถึงปลายทางแน่นอน กรณีนี้สายทั่วไปราคาถูกก็ใช้ได้ไม่ต่างจากสายราคาแพงครับ ขอให้เลือกเวอร์ชั่นให้ถูกกับการใช้งานก็พอ

แล้วถ้าต้องการส่งสัญญาณ ไกลหลายสิบเมตรจะต้องทำยังไงล่ะ กรณีนี้คุณภาพสายจะมีผลอย่างมากครับ เพราะฉะนั้นหาสายที่คุณภาพดีหน่อยก็น่าจะดีกว่าครับ หรือไม่ก็ใช้ Repeater หรือ Booster ขยายสัญญาณระหว่างทางช่วยครับ

คำถามข้อที่ 5 ทำไมตอนไปซื้อ คนขายเทสต์ให้ดู ผมมองเห็นความแตกต่างชัดเจนเลย

คำตอบ ลองเช็คให้ดีนะครับว่าคนขายเค้าเอาอะไรมาเทียบกัน เค้าเอาสาย HDMI ราคาถูกกับแพงมาเทียบกัน หรือว่า เอาสาย HDMI ราคาแพงที่เค้าอยากจะขายมาเทียบกับสาย AV หรือสาย Component กันแน่ ถ้าเป็นกรณีหลังยังไงก็ต้องเห็นความแตกต่างครับ เพราะว่าสาย AV กับ สาย Component เป็นการส่งข้อมูลแบบอนาล็อกครับ ส่วนถ้าเป็นกรณีแรกให้ดูนะครับว่าสายทั้งสองเส้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เหมือน กันหรือเปล่า ทางที่ดีเอาของใหม่มาเทสต์พร้อมกันเลยยิ่งดีครับ

คำถามที่ 6 แล้ว Version ของสาย HDMI มันต่างกันยังไง

คำตอบ ยิ่งใหม่ล่าสุดยิ่งดี ทางองค์กร HDMI สากล เค้าจะมีการกำหนดมาตราฐานใหม่ๆเรื่อยๆใน Version ที่สูงขึ้น จะเป็นการพัฒนามาจราฐานในด้านต่างๆ

สุดท้ายขอย้ำอีกครั้งว่าเจตนาของผมคือต้องการให้ข้อมูลกับผู้ที่กำลังหาซื้อสาย HDMI ไม่ ได้จะบอกว่าสายราคาถูกหรือแพงดีกว่ากัน เพราะมันขึ้นอยู่กับการใช้งาน ไม่ได้จะบอกว่าดิจิตอลดีกว่าอนาล็อก เพราะว่าทั้งสองระบบมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง และไม่ได้ต้องการให้มีการถกเถียงกัน ณ ที่แห่งนี้

ข้อมูลโดยคุณ fotosynergy

Pin It on Pinterest

Share This