earphone1

หลายๆคนก็พากันสงสัยว่า แล้วแบบไหนเราถึงจะเรียกได้ว่า มันเป็นหูฟังที่ดี ถามแต่ละคน ก็พูดไม่เหมือนกันซักคน บ้างก็ว่ายี่ห้อนั้นรุ่นนั้นดี เบสตรึมเสียงเร้าอารมณ์ อีกคนก็บอกว่า รุ่นนั้นยี่ห้อนี้ดีกว่า เสียงใสโล่งโปร่งสบาย ..ทำให้คนเล่นใหม่ๆ บางคนถึงกับมึน ไม่รู้จะเชื่อใครดี ดังนั้นเรามาดูกันก่อนว่า หูฟังที่เข้าลักษณะแบบใด ถึงจะเรียกว่าหูฟังที่ดี

ลักษณะหูฟังที่เรียกว่าดีได้ต้่อง…

– ให้เสียงครบทุกย่าน

การให้เสียงครบทุกย่านคือ ต้องมีเสียงสูง กลางและต่ำที่ครบถ้วนชัดเจน และมี balance ที่ดี ไม่ใช่เสียงย่านใดย่านนึงเด่นนำ หรือ ด้านในด้านนึงห้วนหายไปแบบนั้นเรียกยังไม่ดีครับ เพียงแต่อาจจะถูกใจคนบางคนและ match กับบางเพลงเ่ท่านั้นเอง แต่มันก็ขาดธรรมชาติของดนตรีที่แท้จริง เพราะดนตรีต้องมีครบทุกย่านเสียงครับ

ดังนั้นหูฟังที่เบสเยอะๆ ไม่ได้แปลว่า หูฟังตัวนั้นเสียงดีครับ เบสยิ่งเยอะ มันก็ยิ่งกวนย่านอื่นครับ

– ให้ Dynamic ที่ดี

Dynamic ถ้าจะพูดกันสั้นๆ มันก็คือ “เสียง” เพียงแต่คำว่า Dynamic มันต่างกับ คำว่า sound ตรงที่ Dynamic จะพูดถึงรูปลักษณ์ในการแสดงออกเป็นภาพพจน์(image)ของเสียง ( งงไม๊ครับ ) แต่ส่วนใหญ่เรื่อง Dynamic นี่ มันมีผลจาก system เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะ Dynamic มักจะตอบสนองต่อกำลังขับ ถ้า System มีกำลังขับที่ดี ก็จะให้ Dynamic ที่ดีตามไปด้วย สังเกตง่ายๆ อันไหน Dynamic ดี ก็จะมีรูปร่าง
ของมวลเสียงที่ดี เป็น Shape ที่สมบูรณ์ ไม่มีขอบเสียงไปกวนย่านอื่นๆ ราวๆนั้น

ทีนี้หูฟังบางตัวเนี่ย ไม่สามารถถ่ายทอด Dynamic ออกมาได้ ส่วนนึงก็มาจากวัสดุที่นำมาใช้ทำ Driver ไม่ดีพอ และยังสายที่อั้นกำลังไม่ให้ถ่ายทอดสัญญานไฟฟ้าได้เต็มๆ ทำให้หูฟังตัวนั้นมี Dynamic ที่ไม่ดี เอาไปต่อกับ System อะไรก็ไม่เข้าท่า ดังนั้นการเลือกหูฟัง จุดนี้ก็สำคัญครับ แต่อาการพวกนี้มักไม่ค่อยเกิดกับหูฟังแพงๆเท่าไหร่นัก

– มีการ Focus ที่ดี

แล้ว Focus มันคืออะไร..??? Focus ก็คือจุดรวมที่ก่อให้เกิดผลภาพที่ชัดเจนที่สุด มันก็เหมือน Focus ของกล้องถ่ายรูปแหละครับ ที่ต้องปรับให้มันชัดก่อนจะถ่าย หลายคน อาจจะสงสัยว่า หูฟังมันจะมี Focus ไปทำไม สำคัญขนาดไหน…
จริงๆเรื่องการ Focus ผมค่อนข้างให้ความสำคัญในอันดับต้นๆเลยนะครับ เพราะหูฟังที่ดีจริงๆ ต้อง Focus เสียงดีด้วย อย่าลืมว่า เพลงที่เราฟังเป็นระบบ Stereo ไม่ได้เป็นระบบ Mono และการจะทำให้เกิดเสียงที่เป็น Stereo เป็นมิติได้นั้น ก็ต้องรวมเอา เสียงจากลำโพงซ้าย และลำโพงขวาเข้ามาชนกันที่จุดกึ่งกลางซึ่งก็จะได้เสียงแบบ Stereo นั่นเอง ลองนึกภาพว่า ถ้ามันไม่สามารถ Focus ได้ดี มันจะเป็นยังไง…
แน่นอน เสียงต้องเบลอ ขุ่น ฟังแล้วมึนงง บ้างก็จะกลวงบาง แบน โหรง เพราะไม่สามารถ Focus ให้ image อยู่ในระดับที่พอดิบพอดีได้ สังเกตง่ายๆ หูฟังที่ Focus ดีๆบางทีไม่มีมวล แต่กลับรู้สึกว่ามันชัด รู้สึกมีเนื้อๆเน้นๆ ทั้งๆที่ปราศจากมวลมาห่อหุ้ม
ดังนั้นสิ่งแรกที่จะบอกได้ว่ามันดีจริงๆหรือเปล่า ก็ต้องดูที่การ Focus นี่แหละครับ

 

จำไว้เสมอครับว่า หูฟังทุกตัวให้เสียงไม่เหมือนกัน แม้ใช้ Driver เดียวกัน แต่เพียงแค่เปลี่ยนสาย หรือระยะห่างของ driver กับหูเราห่างกันมากขึ้น ก็จะทำให้เสียงเปลี่ยนไปได้ในทันที และหูฟังแพงๆก็มีเหตุผลของความแพงเช่นกันครับ ทั้งราคาวัสดุ การออกแบบและหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ได้แปลว่า หูฟังแพงๆจะให้เสียงที่ดีหมดทุกตัว หูฟังที่ราคาสูงบางตัวแต่ให้เสียงที่ไม่ค่อยเข้าท่าก็มี ของพวกนี้อยู่ที่ Audiologist และ Engineerที่เป็นผู้ปรุงแต่งและออกแบบครับว่า จะทำออกมาได้แบบใด แต่ส่วนใหญ่แต่ละบริษัทก็มักจะจูนให้มีบุคลิกเป็นไปในตามที่บริษัทต้องการ ดังนั้น บุคลิกของหูฟังใน line ของบริษัทส่วนใหญ่ จึงมักจะมี Signature เฉพาะที่ทำให้หูฟังใน series เดียวกัน มี Signature ไปในทิศทางเดียวกันได้ ทำให้คนที่เล่นหูฟังเวลาต้องการอยากได้บุคลิกแบบนี้แต่เสียงดีกว่าเดิม ก็ยอมที่จะจ่ายแพงกว่าเพื่อไปเล่นรุ่นที่สูงกว่าครับ

Pin It on Pinterest

Share This